ถูก หวย รางวัลที่ 1 ! มาดูคนถูกล็อตเตอรี่ที่เมืองนอก ว่าเขาเอาเงินไปทำอะไรกันบ้าง

หวย – การถูกหวยรางวัลที่ 1 ถือว่าเป็นเรื่องที่ผู้เสี่ยงโชคทั้งหลายต้องการมากที่สุด เพราะทุกวันนี้ผู้ที่ซื้อล็อตเตอรี่เพื่อเสี่ยงโชคส่วนมากมักจะลุ้นผลรางวัลและตั้งความหวังเป็นรางวัลที่ 1 ที่ถือว่าเป็นรางวัลใหญ่กันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ของยุโรปที่ให้มูลค่าของรางวัลสูงมาก ดังนั้นลองมาดูว่าผู้ที่ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ของต่างประเทศนั้น พวกเขานำเงินไปทำประโยชน์หรือสร้างความสุขให้กับตัวเองในด้านใดบ้าง

ตามไปดูความสุขคนถูกหวย ถูกแล้วพวกเขานำเงินไปทำอะไรกันบ้าง

เมื่อขึ้นชื่อว่ารางวัลที่ 1 ของลอตเตอรี่ที่ไม่ว่าจะเป็นของประเทศใดก็ตามผู้คนส่วนใหญ่จะให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมากเพราะผู้ที่ซื้อหวยและซื้อลอตเตอรี่ทุกวันนี้ต่างก็ใฝ่ฝันถึงรางวัลที่ 1 ด้วยกันทั้งนั้น โดยเฉพาะรางวัลที่ 1 ของทางโซนยุโรปที่มีมูลค่าสูงมาก แม้ว่ามูลค่าจะไม่ตายตัวแต่การถูกแจ็คพอตรางวัลที่ 1 ในแต่ละรอบนั้นจำนวนเงินถือว่ามหาศาลเลยทีเดียวโดยมีการถูกรางวัลตั้งแต่หลักล้าน, สิบล้าน ไปจนถึงหลักหมื่นล้านบาทก็มีเช่นกันดังนั้นจึงถือว่าเป็นหนึ่งใน ลอตเตอรี่ที่ใครๆก็อยากจะถูกรางวัลสักครั้ง ดังนั้นจึงขอพาไปดูผู้ที่ถูกหวยต่างประเทศแล้วถูกรางวัลที่ 1 ว่าพวกเขาเหล่านั้นนำเงินไปทำอะไรกันบ้างดังต่อไปนี้

1.  สร้างสวนน้ำและสวนสนุก

John Kuteyผู้ที่นำเงินรางวัลแจ็คพอตใหญ่ของตัวเองมาสร้างสวนน้ำและสวนสนุกในชื่อของพ่อกับแม่ตัวเอง พร้อมมอบทั้งสวนน้ำและสวนสนุกแห่งนี้ให้กับเมือง เพื่อเป็นเกียรติให้แก่ครอบครัว พร้อมกับบริจาคเงินให้กับรัฐเพิ่มกว่า 7 ล้านบาท เพื่อทำการสร้างสวนน้ำสาธารณะหรือสเปรย์ ปาร์ค บนเกาะกรีนแลนด์และที่นิวยอร์ก เพื่อให้เด็กชาวเมืองได้เข้ามาพักผ่อนและสนุกไปกับสวนน้ำในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย โดย John Kuteyถูกรางวัลที่ 1 แจ็คพ็อตเป็นจำนวนเงินมากกว่า 319 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 11,602 ล้านบาทเลยทีเดียว

2.  ซื้อคฤหาสน์ตามความฝัน

Lara and Roger Griffiths เป็นคู่สามีภรรยาที่สามารถชนะ Lotto รางวัลที่ 1 แจ็คพอต รางวัลใหญ่ของปี 2006 ในมูลค่า 1.8 ล้านยูโรหรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 71.3 ล้านบาท สองสามีภรรยาจึงได้นำเงินไปสร้างคฤหาสน์ในฝันของตัวเอง โดยออกแบบและสร้างจากความต้องการส่วนตัวของทั้งคู่ พร้อมกับการซื้อรถปอร์เช่ไว้ใช้งานอีก 1 คัน สำหรับเงินที่เหลือได้นำไปลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นการต่อยอดการลงทุน เมื่อดูโดยรวมแล้วถือว่าทั้งสองสามีภรรยาคู่นี้ใช้เงินได้อย่างคุ้มค่าแต่เมื่อเวลาผ่านไป 6 ปีกลายเป็นว่าเงินจากการชนะ Lotto รางวัลใหญ่ของทั้งคู่กับหมดเกลี้ยงอย่างน่าเหลือเชื่อเลยทีเดียว

3.  เข้าบ่อนเสี่ยงดวงต่อ

Evelyn Adams ถือว่าเป็นผู้ที่ชื่นชอบการเสี่ยงโชคเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะถูกรางวัลล็อตเตอรี่ถึง 2 ปีซ้อน คือ ในช่วงปี 1985 และปี 1986 จนได้รับ เงินรางวัลมูลค่า 5.4 ล้านดอลลาร์หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 196 ล้านบาทไปครอบครอง แต่ก็ใช่ว่าจะหยุดเพียงเท่านี้เพราะเธอได้นำเงินที่ถูกล็อตเตอรี่ทั้งสองปีไปทำการเสี่ยงโชคในบ่อนคาสิโนต่อ  โดยเลือกที่จะนำเงินไปเล่นที่คาสิโนแอตแลนติก ซิตี้ ซึ่งไม่มีรายงานข่าวหลังจากนั้นว่าเธอประสบความสำเร็จต่อการเสี่ยงโชคภายในบ่อนคาสิโนหรือไม่ รู้แต่ว่าเธอเป็นเพียงแค่ผู้โชคดีคนเดียวในกลุ่มของผู้ถูกหวยรางวัลแจ็คพอตที่นำเงินไปเสี่ยงโชคต่อด้วยการเล่นบ่อนคาสิโน

4.  ลงทุนให้ตัวเอง

Louise White คือหญิงชราวัย 81 ปี ที่นำเงินรางวัลล็อตเตอรี่ใหญ่ไปใช้อย่างเหมาะสมและถูกทาง เพราะเธอได้นำเงิน ลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 มูลค่ากว่า 336.4 ล้านดอลลาร์หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 12,234 ล้านบาท ไปทำการตั้งกองทุนเป็นของตัวเองที่มีชื่อว่า The Rainbow Sherbet Trust เพื่อให้กลายเป็นมรดกแก่ครอบครัวของลูกหลานตัวเอง ซึ่งชื่อของกองทุนที่เธอตั้งนั้นมาจากชื่อไอศครีมเรนโบว์ เชอร์เบท ที่ถือว่าเป็นรสชาติที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษและเป็นเพราะไอศครีมรสชาตินี้เองที่ทำให้เธอเดินไปซื้อแล้วเจอกับล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ ทั้งยังตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็วอีกด้วย

5.  สนับสนุนเรื่องที่ตัวเองต้องการ

Bob Erbเป็นหนึ่งในผู้ถูกรางวัลล็อตเตอรี่แจ๊คพอตรางวัลที่ 1 ที่นำเงินไปใช้ได้อย่างแปลกที่สุด เพราะหนุ่มรายนี้เป็นชาวแคนาดาที่ถูกรางวัลที่ 1 มูลค่ากว่า 25 ล้านดอลลาร์หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 909 ล้านบาท ในช่วงปี 2012 เมื่อเขาได้เงินมาจึงได้เข้าร่วมทำการเคลื่อนไหวและสนับสนุนให้ประเทศใช้กัญชาได้อย่างถูกกฎหมาย โดยมีทั้งเพื่อนสนิทและคนรอบข้างที่มองว่าการกระทำนี้อาจจะเป็นแค่เพียงเรื่องตลกหรือเป็นเพียงแค่การพูดขึ้นมาเล่นๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วเขากลับนำเงินที่ได้จากการถูกลอตเตอรี่แจ็คพอตไปสร้างแคมเปญเพื่อสนับสนุนแนวความคิดการใช้กัญชาอย่างเสรีภายในประเทศ ที่สำคัญคือหลังจากการรับรางวัลล็อตเตอรี่แล้วเขาก็ยังคงทำงานประจำของตัวเองตามปกติ ไม่ได้ลาออกแต่อย่างใดและยังสมัครเข้าเป็นสมาชิกของมูลนิธิช่วยเหลือคนไร้บ้านเพื่อเป็นอาสาสมัครออกไปช่วยเหลือคนไร้บ้านจริงอีกด้วย

6.  บริจาคการเมือง

Janite Leeถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกรางวัลที่ 1 แจ็คพอตแล้วนำไปใช้ได้อย่างสุดแปลกเช่นเดียวกัน ซึ่งJanite Lee คือช่างทำวิกผมที่ได้เข้ามาทำงานในประเทศอเมริกา ตัวเธอนั้นมีเชื้อชาติของชาวเกาหลีใต้ ซึ่งถูกรางวัลลอตเตอรี่ใหญ่ในช่วงปี 1933 ด้วยมูลค่าสูงถึง 18 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 654 ล้านบาท หลังจากการจ่ายหนี้สินส่วนตัวของเธอหมดเรียบร้อยแล้ว จึงได้แบ่งเงินส่วนหนึ่งแล้วทำการบริจาคให้แก่พรรคการเมืองที่เธอชื่นชอบเป็นพิเศษ ทั้งยังเป็นผู้ที่เข้าร่วมการสนับสนุนพรรคด้วยการเป็นหนึ่งในทีมหาเสียงของพรรคนั้นอีกด้วย

7.  วางแผนการเงินอย่างระมัดระวัง

Merle and Patricia Butlerถือว่าเป็นคู่สามีภรรยาที่ถูกรางวัล Mega Millions แจ็คพอตในช่วงปี 2012 แล้วนำเงินไปใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่าที่สุด โดยจำนวนเงินที่ได้รับสูงถึง 656 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 24,186 ล้านบาท  โดยสองสามีภรรยาได้ตัดสินใจนำเงินมหาศาลนี้ไปใช้อย่างชาญฉลาด ด้วยการจ้างนักวางแผนทางการเงินส่วนตัวเพื่อทำการใช้ชีวิตและการใช้เงินมีความคุ้มค่ามากที่สุด จึงถือว่าเป็นผู้ชนะเงินรางวัลล็อตเตอรี่แจ็คพอตที่นำเงินไปต่อยอดให้กับตัวเองและคนภายในครอบครัวได้อย่างชาญฉลาดที่สุดเลยทีเดียว

8.  ท่องเที่ยวอย่างมีความสุข

Nigel Willettsคือ ผู้ที่ถูกรางวัลลอตเตอรี่แจ๊คพอตรางวัลที่ 1 มูลค่า 1 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 39.3 ล้านบาท ในปี 2014 ซึ่งตัวเขาเองและสมาชิกภายในครอบครัวมีมากถึง 13 คน Nigel Willetts จึงพาทุกคนภายในครอบครัวออกท่องเที่ยวและพักผ่อนตามจุดพักต่างๆ อย่างสุดหรู พร้อมแวะพักผ่อนที่ฟลอริด้า จากนั้นได้นำเงินที่เหลือนำพาตัวเองไปท่องเที่ยวยังดินแดนต่างๆ ที่ตัวเองต้องการไปทั่วโลก ทั้งยังมีแพลนในการฉลองวันเกิดให้กับตัวเองที่ลาสเวกัสแบบสุดยิ่งใหญ่อีกด้วย

9.  ช้อปปิ้งเต็มที่

Vivian Nicholson ผู้ถูกรางวัลที่ 1 ด้วยเงินรางวัล 152,300 ยูโรหรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 6 ล้านบาทจากเกม Britain’s Football Pool ช่วงปี 1961 หลังจากที่เธอได้รับเงินรางวัลแล้วเธอได้วางแผนที่จะใช้เงินของตัวเองไปกับการช้อปปิ้ง, ซื้อเสื้อผ้า, เครื่องประดับ, ซื้อรถสุดหรูและทริปเดินทางท่องเที่ยวทั่วยุโรปและท่องเที่ยวทั่วทั้งอเมริกาเรียกได้ว่าเธอใช้เงินไปกับการซื้อของหรู ราคาแพง ใช้ชีวิตฟูฟ่าและการซื้อความสุขให้กับตัวเองทั้งหมดจึงทำให้ทุกวันนี้เธอยังคงมีเสื้อผ้าสุดหรู, กระเป๋าราคาแพงและเครื่องประดับพร้อมกับไอเทมต่างๆ จากแบรนด์ดังระดับโลกอยู่ภายในบ้านของตัวเองแต่สำหรับเงินรางวัลที่ได้รับมานั้นเธอได้ใช้จนหมดเป็นที่เรียบร้อย

ถ้าเป็นคุณที่ถูกรางวัลใหญ่แจ็คพอตหรือล็อตเตอรี่รางวัลที่ 1 ที่ไม่ว่าจะมูลค่าเพียงแค่หลักล้านหรือหลักหมื่นล้านบาท คุณคิดว่าจะทำตามผู้ที่ถูกรางวัลทั้ง 9 คนนี้หรือไม่? ซึ่งคำตอบนี้คงจะตอบได้ยากถ้าวันที่คุณจะได้รับเงินมหาศาลนี้ยังไม่มาถึง ดังนั้นถ้าคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่โชคดี ได้รับเงินรางวัลมูลค่าสูง อย่าลืมที่จะใช้อย่างคุ้มค่าที่สุดและทำให้เงินรางวัลสุดยิ่งใหญ่นี้ต่อยอดการใช้ชีวิตของตัวคุณได้ดีที่สุดอีกด้วย